วันธรรมสวนะ
วันธรรมสวนะ แปลว่า วันสำหรับฟังธรรม เรียกกันทั่วไปว่า วันพระ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน ๒ วัน คือ วันพระเล็ก ได้แก่ วันขึ้นและวันแรม ๘ ค่ำ และวันพระใหญ่ ได้แก่ วันขึ้นและวันแรม ๑๕ ค่ำ
ตามประวัติกล่าวว่าครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล พระเจ้าพิมพิสารทอดพระเนตรเห็นพวกเดียรถีย์ประชุมกันในวัน ๘ ค่ำ และ วัน ๑๔ หรือ ๑๕ ค่ำ ทั้งข้างขึ้นและข้างแรม จึงนำความขึ้นกราบทูลพระพุทธเจ้า ซึ่งทรงมีพุทธานุญาตให้มีการประชุมกันในวันดังกล่าวและให้มีการแสดงธรรมและฟังธรรมเพื่อนำไปเป็นข้อปฏิบัติขัดเกลาจิตใจ ดังนั้นวันธรรมสวนะจึงมีความสำคัญและมีคุณประโยชน์ดังนี้
๑) เป็นโอกาสที่พระภิกษุสามเณรได้มาประชุมพร้อมกันฟังพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
๒) เป็นโอกาสที่พระภิกษุสามเณรได้ผลัดกันแสดงธรรม อันเป็นวิธีการฝึกตนและประสบการณ์ให้มีความสามารถในการถ่ายทอดหลักธรรมคำสอน เพื่อจะได้เป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสืบไป
๓) เป็นโอกาสที่พุทธศาสนิกชนจะได้เจริญศรัทธาในพระพุทธศาสนาและพระรัตนตรัย
๔) เป็นโอกาสที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันในชุมชน เพราะในวันนี้ประชาชนจะมาร่วมกันทำบุญ จึงเป็นวิธีการสร้างความสามัคคี และการอนุเคราะห์ช่วยเหลือกันตามสมควร
วันเข้าพรรษา
วันเข้าพรรษา หมายถึง วันที่มีพุทธบัญญัติกำหนดให้พระภิกษุสงฆ์จะต้องพักประจำอยู่กับที่ในฤดูฝนตลอดเวลา ๓ เดือน การเข้าพรรษาในปีหนึ่งๆมีพุทธบัญญัติจะต้องพักประจำ
ตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ หรือวันที่ถัดจากวันอาสาฬหบูชาเป็นวันที่พระสงฆ์จะอธิษฐานว่า จะอยู่ประจำอาวาสเดียวไม่ไปค้างแรมที่อื่นตลอด ๓ เดือน
ตามประวัติกล่าวว่า ในสมัยพุทธกาลพระสงฆ์ได้ท่องเที่ยวจาริกไปยังสถานที่ต่างๆ โดยไม่มีการหยุดพัก แม้ในฤดูฝน ซึ่งเป็นฤดูทำนา บางครั้งจึงไปเดินเหยียบข้าวกล้าของชาวบ้านที่เพิ่งเริ่มเป็นต้นอ่อนก่อให้เกิดความเสียหาย ชาวบ้านพากันติเตียน พระพุทธองค์จึงทรงวางระเบียบให้พระภิกษุอยู่ประจำอาวาสตลอด ๓ เดือนในฤดูฝน เรียกว่า จำพรรษา
ต่อมาการเข้าพรรษามีวัตถุประสงค์กว้างขวางออกไป กล่าวโดยสรุปคือ
๑) วันพระสงฆ์ได้มีเวลาศึกษาพระธรรมวินัยมากขึ้น
๒) เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวบ้านบำเพ็ญกุศล
๓) เพื่อให้ประชาชนได้นำบุตรหลานที่เป็นชายเข้ามาบวช เพื่อศึกษาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
วันออกพรรษาและวันเทโวโรหณะ
วันออกพรรษา หมายถึง วันที่สิ้นสุดการกำหนดอยู่จำพรรษาของพระภิกษุตามพุทธบัญญัติ
ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ เมื่อออกพรรษาแล้วพระสงฆ์สามารถไปพักค้างแรมในที่เหมาะสมอื่นได้
ทั้งนี้ก่อนวันออกพรรษา ๑ วัน เป็นวันที่พระสงฆ์จะมีโอกาสกล่าวคำตักเตือนซึ่งกันและกัน หากพระสงฆ์รูปใดมีข้อข้องใจเรื่องความประพฤติเกี่ยวกับวินัยสงฆ์ก้ไม่ต้องนิ่งไว้ อนุญาตให้ชี้แจงกันได้ การออกพรรษาจึงเป็นพิธีกรรมเฉพาะพระสงฆ์ เรียกว่า วันปวารณา
อนึ่งในเทศกาลออกพรรษา พุทธศาสนิกชนจะมีการทำบุญตักบาตร เรียกว่า ตักบาตรเทโวโรหณะหรือที่นิยมเรียกกันสั้นๆว่า การตักบาตรเทโว คือ การทำบุญตักบาตรเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จกลับลงจากเทวโลก หลังจากเสด็จขึ้นไปจำพรรษาเพื่อโปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พุทธศาสนิกชนจึงถือเอาวันรุ่งขึ้น คือ วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ เป็นโอกาสพิเศษพร้อมใจกันตักบาตรเฉลิมฉลองและถือเป็นประเพณีสืบมา
หลักธรรมคำสอนที่เกี่ยวข้องกับวันธรรมสวนนะและเทศกาลสำคัญทางพระพุทธศาสนา
หลักธรรมสำคัญที่เกี่ยวข้องกับวันธรรมสวนะ (วันพระ) และเทศกาลสำคัญทางพระพุทธศาสนามีหลายหัวข้อ ตัวอย่างเช่น
หิริ-โอตตัปปะ - เป็นหลักธรรมคุ้มครองโลกให้บุคคลละอายต่อบาปและเกรงกลัวต่อบาป ไม่ประพฤติชั่วทั่วในที่ลับและที่แจ้ง
พรหมวิหาร๔ - ประกอบด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นหลักธรรมประจำใจอันประเสริฐ
สติ-สัมปชัญญะ - เป็นหลักธรรมที่มีอุปการะมาก เพราะสอนให้ระลึกได้ เห็นชัดในสิ่งที่ตนประสบสัมผัสตามความเป็นจริง
อิทธิบาท๔ - ประกอบด้วย ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา เป็นหลักธรรมที่นำไปสู่ความความสำเร็จหลักธรรมเหล่านี้ พระสงฆ์ผู้เป็นธรรมกถึกมักใช้แสดงธรรมแก่อุบาสกอุบาสิกา เพราะเป็นธรรมะขั้นพื้นฐานสำหรับชาวบ้าน
การปฏิบัติที่ถูกต้องในวันธรรมสวนะและเทศกาลสำคัญทางพระพุทธศาสนา
อามิสบูชา คือ บูชาด้วยวัตถุสิ่งของ เช่น ตักบาตรในตอนเช้า ส่วนตอนเย็นนำดอกไม้ธูปเทียนไปเวียนเทียน
ปฏิบัติบูชา คือ บูชาด้วยการปฏิบัติธรรม ได้แก่ การไปวัดฟังเทศน์ การสมาทานรักษา ศีล ๕ หรือศีล ๘ รวมถึงการบำเพ็ญสมาธิภาวนาทำจิตใจให้สงบ